Nakornthai's talk

RadioShack Nissan Trek Team (Chapter 1)

ถ้าจะกล่าวถึงทีมจักรยานอาชีพในวงการกีฬาจักรยานถนนระยะทางไกลแล้ว น้อยคนนักที่ให้ความสนใจการแข่งขันในกีฬาประเภทนี้ จะไม่รู้จักกับทีม RadioShack Nissan Trek ยิ่งทีมได้รับการสนับสนุนจากผู้ผลิตจักรยานชื่อก้อง ที่สร้างตำนานมาอย่างยาวนานคู่กับผู้รักการปั่นจักรยานในเมืองไทยอย่างTrekด้วยแล้ว รายละเอียดของการก่อร่างสร้างทีมจักรยานระดับอาชีพทีมนี้ จึงน่าที่จะหยิบยกมานำเสนอเป็นอย่างยิ่งให้กับผู้รักการปั่นจักรยานในบ้านเรา

จุดเริ่มต้นมาจากทีมจักรยานอาชีพ RadioShack ทีมจักรยาน RadioShack Nissan Trek มีรากเหง้าเริ่มมาจากทีมRadioShackรหัสทะเบียนสหพันธ์จักรยานนานาชาติ คือ RSH RadioShack ก่อตั้งทีมเมื่อปี ค.ศ. 2009 และปิดการดำเนินการในปี ค.ศ. 2011

 ทีม RadioShack เป็นทีมจักรยานอาชีพที่มีผู้สนับสนุนทีมเป็นภาคเอกชนและมีนักจักรยานประจำทีมเป็นผู้มีสัญชาติหลายชาติ ซึ่งแต่เดิมการแข่งขันจักรยานถนนอาชีพที่เริ่มที่มาตั้งแต่ปี ค.ศ.1868 จะถูกจำกัดให้จัดแข่งขันในนามของทีมชาติจากประเทศชั้นนำของภาคพื้นทวีปยุโรปเพียงเท่านั้น จนในระยะหลังการสนับสนุนได้มีภาคองค์กรเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมด้วยและทีมสามารถนำชื่อองค์กรที่สนับสนุนมาเป็นชื่อทีมจักรยานอาชีพได้RadioShack คือ บริษัทที่ได้รับสัมปทานการจัดจำหน่ายปลีกสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงอุปกรณ์สื่อสารและโทรคมนาคมหลากชนิดของประเทศสหรัฐอเมริกา RadioShack มีสาขาเครือข่ายทั่วๆสหรัฐ รวมไปถึงในยุโรป ในอเมริกาใต้และแอฟริกาใต้บริษัทฯมีรายได้และเงินทุนหมุนเวียนมากกว่า 4.81 พันล้านเหรียญสหรัฐ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ดัลลัส ฟอร์ดเวิธร์ มลรัฐเท็กซัส (สัญญลักษณ์ทีมเดิม สัญญลักษณ์ทีมปัจจุบัน รูปด้านล่าง)

RadioShack มีเจตจำนงที่จะสนับสนุนจัดตั้งทีมจักรยานในระดับอาชีพ การประกาศตั้งทีมจึงเริ่มขึ้นในวันที่ 23 เดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ.2009 โดยมีแล้นซ์ อามสตรองเป็นผู้มีส่วนร่วมและนำทีม วัตถุประสงค์หลักคือ การนำทีมเข้าแข่งขันใน Grand Tours ซึ่งเป็นสามอุโฆษนามแห่งตำนานการแข่งขันจักรยานอาชีพทั้งสามรายการยักษ์คือTour de France, Vuelta a Espana และ Giro de Italia รวมถึงวัตถุประสงค์รอง คือ การสร้างทีมจักรยานเข้าร่วมการแข่งขันรายการต่างๆในระดับอาชีพของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (UCI ProTour) การบริหารจัดการทีมอยู่ภายใต้อำนาจของบริษัท Austin Texas sport and event management group รวมถึงโครงการร่วมอย่าง Trek-Livestrong ที่ให้การสนับสนุนการทำทีมจักรยานที่มีอายุต่ำกว่า 23 ปี ที่กลุ่มผู้ทำทีมก็โยกมาจากผู้บริหารทีมของDiscovery Channel ทั้งชุด

โยฮัน บรุยนีล (Johan Bruyneel) ชาวเบลเยี่ยม รับตำแหน่งเป็นผู้จัดการทั่วไปของทีม Radioshack บรุยนีลอดีตเคยเป็นนักจักรยานอาชีพที่รุ่งโรจน์ช่วงปี 1989-1998 หลังจากเลิกเข้าแข่งขัน บรุยนีลโดดเข้าสู่วงการจักรยานอาชีพในฐานะเป็นผู้จัดการบริหารให้ทีมจักรยานอาชีพทีมแรก คือ ยูเอสโพสทัลเซอร์วิส และผลงานของเขาก็ส่งให้อามสตรองครองแชมป์ตูร์เดอ ฟรองถึงเจ็ดสมัย ส่งให้อับแบร์โต้ คอนทาดอร์ชนะตูร์หนึ่งสมัยและลีไวน์ ไล้ไพน์เม้อร์ครองอันดับสาม ส่วนผู้จัดการทีม (Sport Director, ภาษาฝรั่งเศส Directeur sportif) Radioshack ได้ว่าจ้าง Dirk Demol ชาวเบลเยี่ยมเช่นกัน Demol เองก็เคยเป็นผู้ชนะการแข่งขันคลาสสิครายการใหญ่อย่างปารีส-รูแบร์มาแล้วในปี ค.ศ.1988

   อามสตรองและโยฮัน บรุยนีล เวียตเชสสลาฟ อาคีมอฟ โฮเซ่ อาเซเวโด้

ผู้บริหารทีมสมทบประกอบไปด้วยนักจักรยานที่เกษียณตัวเองจากทีมดิสโคเวอรี่ ชาแน่ล คือ เวียตเชสสลาฟ อาคีมอฟ (Viatcheslav Ekimov,รัสเซีย) และโฮเซ่ อาเซเวโด้ (jose’ Azevedo,โปรตุเกส) ทีมยังได้รับการสนับสนุนจากผู้ผลิตและจำหน่ายจักรยานชั้นนำอย่างTrek, บริษัท Slam และผู้ผลิตชุดกีฬายักษ์ใหญ่อย่าง คือ Nike

ฤดูการแข่งขันในปี 2010
25 พฤศจิกายน 2009 คณะกรรมการจัดการแข่งขันจักรยานอาชีพของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (UPTC)ประกาศการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการประจำฤดูการแข่งขันปี 2010 ให้กับทีม RadioShack ทีมประกอบไปด้วยนักจักรยานอาชีพ 26 คนจาก 16 ประเทศ รวมทั้งนักปั่นจากแดนปลาดิบฟูมิยูกิ เบ้ปปู (fumiyuki Beppu) ก็เข้าร่วมทีมในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งในปี 2011 เบ้ปปูก็สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถคว้าแชมป์แห่งชาติญี่ปุ่นทั้งประเภทถนน (Japan Rode Race)และบุคคลจับเวลา (Japan Time Trial) ส่วนนักปั่นจากจีน ลี ฟูยู (Li Fuyu) ต้องถูกถอดออกจากทีมเพราะไม่ผ่านการตรวจหาสารกระตุ้น

ฟูมิยูกิ เบ้ปปู (fumiyuki Beppu) ลี ฟูยู (Li Fuyu)

ทีมได้วางแผนงานที่จะเข้าร่วมการแข่งขันตูร์ เดอ ฟรองซ์ประจำฤดูการ 2010 และการแข่งขัน Vuelta a Espana (Tout of Spain) และการแข่งขันอื่นๆที่การจัดการแข่งขันเล็กลงมาอีกหลายรายการ แต่เกิดการโต้แย้งและไม่สามารถตกลงกันได้ทีม RadioShack จึงไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันที่สเปน ในการแข่งตูร์ 2010 ทีม RadioShackประสบความสำเร็จได้รับรางวัลทีมยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นเพียงครั้งที่สองที่ทีมสายเลือดผสมจากสหรัฐสามารถมายืนแป้นในตำแหน่งนี้ได้ หลังจากที่ทีมดิสคอฟเวอรี่ ชาแน่ลเคยทำได้ในตูร์ปี 2007 หลังจากการแข่งขันตูร์ในปี 2010 จบลงทีม Radioshack ได้เลื่อนอันดับนักปั่นประจำทีมของตนเองอย่าง เทเล่อร์ พินเน่ (Taylor Plinney) และเจสซี่ เซอร์เจ้นท์ (Jessy Sergent) จากทีม Trek Livestrong ที่เป็นทีมที่มีนักจักรยานอายุน้อยกว่า 23 ปี รวมถึง คลินตั้น เอเวอร์รี่ (Clinton Avery) จากทีม PWS Eijssen เข้าร่วมทีมใหญ่ในฐานะนักปั่นดาวรุ่งที่ทีมกำลังจับตามองผลงาน(Stagiaires หรือ Trainees ในภาษาฝรั่งเศส)

 เทเล่อร์ พินเน่ เจสซี่ เซอร์เจ้นท์

ฤดูการแข่งขันในปี 2011
RadioShackเริ่มต้นฤดูการ 2011 ช่วงวันที่ 18-23 มกราคมกับการส่งทีมเข้าแข่งขันรายการ Tour Down Under ที่จัดมาเป็นปีที่ 13 ในประเทศออสเตรเลีย Tour Down Under นับเป็นรายการแรกประจำปีของWorld Tourที่บรรจุอยู่ในการแข่งขันประจำปีปฏิทินของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (UCI) รายการนี้ทีม RadioShack ได้รอบบี้แมคอีแว่น (Robbie McEwen) หนุ่มสปริ้นเต้อร์จากเมืองบรีสเบนเข้าร่วมทีมด้วย แมคอีแว่นถูกยกย่องในขณะนั้นว่าเป็นนักจักรยานที่เร่งความเร็วเข้าเส้นชัยได้ดีที่สุดในโลก โดยที่หมอโด่งดังมาจากการขี่จักรยานบีเอ็มเอ็กซ์

รอบบี้ แมคอีแว่น

ในปี 1990 แมคอีแว่นที่เพิ่งจะมีอายุครบ 18 ปีก็เริ่มเข้าร่วมการแข่งขันจักรยานถนน และต่อมาติดทีมชาติออสเตรเลียในปี 1994 จากการสะสมแต้มในการแข่งขันของทีมมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทีม RadioShack ได้รับสิทธิเข้าไปร่วมในการแข่งขันทุกรายการตามระเบียบของสหพันธ์ฯ (UCI ตลอดฤดูการปี2011ทีมRadioShackสามารถกำชัยชนะได้ 28 รายการ และนั่นเป็นผลงานส่งให้ทีมอยู่ในการจัดอันดับทีมจักรยานอาชีพของ UCI ในระดับเยี่ยม แต่ทีมกลับไม่มีชื่อเสียงและผลงานเลยในการแข่งขันระดับในGrand Tour ทำให้บรุยนีลผู้จัดการทั่วไปถูกพิจารณาและตั้งคำถามถึงผลงานจากผู้บริหารระดับสูง มีเพียงนักแข่งในทีมคนเดียวคือ ไฮม่าร์ ซุเบลเดีย (Haimar Zubeldia) หนุ่มแดนกระทิงดุที่สามารถรั้งอันดับที่ 16 ในการแข่งขันตูร์ประจำฤดูการนี้เท่านั้น สถานการณ์อันไร้ชื่อของทีมในการได้รับชัยชนะในรายการจัดการแข่งขันใหญ่ๆระดับ Grandเป็นคำตอบที่ผู้จัดการทีมที่เชี่ยวศึกอย่างบรุยนีลจะต้องตอบให้ได้ ฤดูกาล 2011 ในยุโรปพวกเขาอาจจะมองหน้าใครเขาไม่ติด แต่ทีม RadioShack กลับไปสร้างชื่อเสียงในการแข่งขันในสหรัฐอเมริกาอย่างถล่มทลาย ด้วยการชนะการแข่งขันรายการที่ยิ่งใหญ่ได้ทั้งสามรายการในสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นทัวร์ ออฟ แคลิฟอร์เนีย,ทัวร์ ออฟ ยูท่าห์และรายการUS Pro Cycling Challenge โดยมี คริส ออนเน้อร์ (Chris Horner) ชนะในรัฐแคลิฟอร์เนียและลีไวน์ ไล้ไพน์เมอร์( Levi Leipheimer) ชนะในยูท่าห์และโคโรลาโด้ นักปั่นในทีมยังสามารถชนะช่วงการแข่งขันอีก 7 ช่วงอีกด้วย

คริส ออนเน้อร์ ลีไวน์ ไล้ไพน์เมอร์

แต่ในปี ค.ศ.2011 ทีมก็ถูกยุติการดำเนินการทุกอย่างและรื้อระบบโครงสร้างทีมลง RadioShack ได้คืนสิทธิบัตรการเป็นทีมจักรยานอาชีพ ให้กับสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (UCI) ต่อมาทั้ง RadioShack และผู้สนับสนุนยักษ์ใหญ่รายใหม่ คือ จากค่ายรถยนต์นิสสันได้ร่วมจับมือกันฟื้นโครงการทีมจักรยานอาชีพขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยการเข้าสนับสนุนทีมเล็พพาร์ด เทร็กซ์ โดยยังคงว่าจ้างให้บรุยนีลเข้าบริหารทีมใหม่ ภายใต้ชื่อทีมที่ขึ้นทะเบียนกับ UCI ว่าRadioShack-Nissan (UCI) กำหนดให้ชื่อทีมจักรยานอาชีพจะต้องเป็นชื่อของผู้สนับสนุนได้ไม่เกินสองชื่อ ดังนั้นจึงไม่ปรากฏชื่อของ Trek ที่มีนักจักรยานพ่วงมาเข้าทีมด้วยจำนวนหนึ่ง การรวมตัวของทั้งสองทีมทำให้เกิดข้อตกลงใหม่ ฟลาวิโอ เบกก้า เจ้าของทีมเล็พพาร์ด-เทร็กซ์ ยังคงสภาพทีมต่อไปภายใต้การบริหารงานของผู้บริหารจากทีม RadioShack และชื่อของเล็พพาร์ดจะต้องคงอยู่และที่สำคัญ เบกก้าจะต้องเป็นคนที่ถือครองสิทธิบัตรของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ พร้อมกับการจดทะเบียนทีมในสัญชาติลักแซมเบิร์กตามข้อเสนอของเบกก้า

(กรุณาติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมใน Chapter2)

ткани для вышивания